“ริโอ อึนโกโมฮา” ดาวรุ่งวัย 16 ปี จุดประกายความหวังใหม่ให้ลิเวอร์พูล ก่อนเปิดฤดูกาล

ริโอ อึนโกโมฮา ปีกดาวรุ่งวัยเพียง 16 ปี กำลังสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลลิเวอร์พูล หลังโชว์ฟอร์มเด่นในเกมอุ่นเครื่องกับแอธเลติก บิลเบา ที่แอนฟิลด์ ช่วยตอกย้ำศักยภาพและทางเลือกมากมายที่อาร์เน่ สลอต กุนซือคนใหม่มีอยู่ในมือ
อึนโกโมฮา ยิงประตูเบิกร่องอย่างสวยงาม และแอสซิสต์ให้ดาร์วิน นูนเญซ ทำประตูที่สองในช่วงเวลาเพียง 5 นาทีแรก ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะเก็บชัยชนะในเกมแรกด้วยสกอร์ 4-1 ท่ามกลางเสียงเชียร์ “ริโอ” ดังกระหึ่มจากเดอะค็อป ขณะที่แฟนบอลต้องรอจนเกมที่สองจึงจะได้เห็นแข้งใหม่อย่างฟลอเรียน เวิร์ตซ์, มิโลส เคอร์เคซ, จอร์จี้ มามาร์ดัชวิลี่, ฮูโก้ เอกิติเก้ และเจเรมี่ ฟริมปง โดยลิเวอร์พูลเก็บชัยอีกนัดด้วยสกอร์ 3-2
แม้อึนโกโมฮาจะยังไม่สามารถเซ็นสัญญาอาชีพได้จนกว่าจะอายุครบ 17 ปีในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ แต่ผลงานของเขาก็ทำให้เห็นว่าทำไมเชลซีถึงผิดหวังอย่างหนักที่เสียเจ้าหนูรายนี้ให้ลิเวอร์พูลเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะประตูสุดสวยในเกมนี้ที่เจ้าตัวลากบอลจากครึ่งสนาม ก่อนจะปั่นโค้งด้วยเท้าซ้ายเสียบมุมเสาไกลอย่างเยือกเย็น
อึนโกโมฮาเคยทำประตูในลักษณะคล้ายกันในเกมอุ่นเครื่องกับโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่หลุยส์ ดิอาซ ย้ายไปร่วมทีมบาเยิร์น มิวนิค ด้วยค่าตัว 65.5 ล้านปอนด์ ทำให้ตำแหน่งปีกซ้ายของทีมเปิดกว้างให้กับผู้เล่นหลายราย รวมถึงโคดี้ กัคโป, เวิร์ตซ์, เอกิติเก้ และอาจรวมถึงดาวรุ่งจากลอนดอนรายนี้ด้วย
ผลงานของอึนโกโมฮาในเกมนี้ทำให้จอห์น เทอร์รี่ อดีตกัปตันทีมเชลซีที่เคยเสียดายการย้ายทีมของเขาต้องยอมรับว่าเป็นการสูญเสียที่หนักสำหรับสิงห์บลูส์ ขณะที่ลิเวอร์พูลยังคงจับตาสถานการณ์ของอเล็กซานเดอร์ อิซัค จากนิวคาสเซิ่ล แต่ด้วยขุมกำลังในแนวรุกที่มีอยู่ สลอตอาจไม่เร่งรีบในการหาตัวแทนหลุยส์ ดิอาซ ทันที โดยเฉพาะเมื่อข้อเสนอ 110 ล้านปอนด์สำหรับอิซัคยังค้างอยู่บนโต๊ะ
ดาร์วิน นูนเญซ ที่ตกเป็นข่าวกับอัล-ฮิลาล ก็ทำประตูได้ในเกมนี้และฉลองต่อหน้าเดอะค็อปด้วยท่าทาง “มือแตะหน้าอก” ที่อาจเป็นสัญญาณถึงอนาคตของเขาในถิ่นแอนฟิลด์ เช่นเดียวกับเบน โด๊ค และฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่ต่างก็ทำประตูได้เช่นกัน ส่วนอึนโกโมฮาได้รับเสียงปรบมือกึกก้องเมื่อถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 67 ให้กับ เทรนต์ โคเน่-โดเฮอร์ตี้
เกมนี้ยังเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก เมื่อแฟนบอลทั้งสนามลุกขึ้นยืนปรบมือในนาทีที่ 20 เพื่อรำลึกถึง ดิโอโก้ โชต้า และน้องชาย อังเดร ซิลวา ที่เพิ่งเสียชีวิต โดยมีฟิล ธอมป์สัน อดีตกัปตันทีมวางพวงหรีดร่วมกับประธานสโมสรแอธเลติก ก่อนเริ่มเกม
อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลต้องขาดผู้เล่นตัวหลักอย่างเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่ป่วย รวมถึงคอเนอร์ แบรดลีย์ และโจ โกเมซ ที่บาดเจ็บ ทำให้สลอตต้องใช้กองกลางวัย 18 ปี เทรย์ นโยนี ลงเล่นเป็นเซ็นเตอร์ในเกมแรก และให้ลูก้า สตีเฟนสัน เล่นแบ็กขวา ขณะที่ผู้รักษาประตู อลิสซง เบ็คเกอร์ ยังไม่พร้อมด้วยเหตุผลส่วนตัว
แม้แนวรับจะดูขาดความลึก แต่ในเกมรุก การแจ้งเกิดของอึนโกโมฮาทำให้ลิเวอร์พูลดูมีอนาคตที่สดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

